วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

วิกฤตการณ์น้ำท่วม


วิกฤตการณ์น้ำท่วมลำปาง

         วิกฤตการณ์น้ำท่วมลำปาง เหตุการณ์อุทกภัยครั้งยิ่งใหญ่นี้ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบ 40 ปี เหตุการณ์เริ่มเกิดขึ้นที่อำเภอเมืองปานเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 27 กันยายน 2548 และได้เริ่มท่วมที่อำเภอเมืองปาน อำเภอแจ้ห่ม อำเภอเมือง รวมเวลาทั้งสิ้นประมาณ 4 วัน


         เหตุการณ์อุทกภัยครั้งยิ่งใหญ่นี้มีต้นเหตุมาจากพายุที่มีชื่อว่า “ ดอมเรย ”
DOMRAY (ดอมเรย) เป็นภาษาเขมร อ่านว่า ดอม – เรย ไม่ใช่ ดอม - เร พายุดอมเรยสร้างความเสียหายให้กับภาคเหนืออย่างหนัก หลายจังหวัดที่ได้รับอิทธิพลและความเสียหายเป็นอันดับต้นๆของภาคเหนือก็ได้แก่ลำปาง
          สรุปความเสียหายในการเกิดอุทกภัยที่ลำปางได้รับความเสียหายทั้งหมด 9 อำเภอ 38 ตำบล ความเสียหายที่เกิดขึ้นทำให้เกิดการสูญเสียทั้งชีวิตของประชาชน ทรัพย์สินของมีค่ามากมาย ถนนหลายสิบเส้นทางขาด สะพานหลายสะพานผ่านไม่ได้ หมู่บ้านหลายหมู่บ้านถูกตัดขาด สัตว์เลี้ยงต่างๆ เช่น วัว ควาย หมู เป็ด ไก่ ตายกันเป็นระนาว
สะพานรัษฎาหลังน้ำได้ลดลงบ้างแล้ว



         ในเขตเทศบาลตำบลแจ้ห่มประชาชนคนแจ้ห่ม ตลาด ร้านค้าต่างๆขนของหนีน้ำไม่ทันได้รับความเสียหายเป็นอย่างมากเพราะไม่มีใครได้ทันเตรียมตัว น้ำมาเร็วมาก เก็บของอะไรได้ก็นำติดตัวเท่าที่ทำได้เพราะต้องรักษาชีวิตเอาไว้หนีขึ้นไปอยู่ชั้นสองบ้าง บ้านของใครที่เป็นบ้านชั้นเดียวต้องหาทางหนีขึ้นบนหลังคา ในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมงบ้านเรือน สถานที่สำคัญต่างๆก็จมอยู่ในน้ำที่มีแต่โคลน สีของน้ำเหมือนกับสีของโอวัลตินหรือสีของโกโก้
         ในเขตเทศบาลนครลำปางมีการประกาศเตือนให้อพยพผู้คนออกจากพื้นที่ลุ่มริมน้ำวังและประกาศเตือนให้เก็บสิ่งของและทรัพย์สินหนีน้ำ แต่ประชาชนบางคนก็ยังเฉยและคาดว่าน้ำท่วมไม่ถึง แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องสูญเสียข้าวของเครื่องใช้มากมาย
         น้ำท่วมลำปางเมืองลำปางเป็นสิ่งที่หลายคนไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้น หลายครั้งผ่านมาเป็นตัวยืนยันว่าคงท่วมแถวเดิมๆและท่วมนิดหน่อยเท่านั้นคงจะเหมือนๆที่เคยท่วมมาแล้ว
สภาพความแรงของน้ำและรถยนต์ที่จมอยู่ในน้ำ



      สิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้คงแสดงให้คนลำปางเห็นแล้วว่านี้คือเหตุการณ์ปัจจุบันที่ได้แตกต่างจากอดีต สภาพของลำปางได้เปลี่ยนไปมาก เช่นที่อำเภอแจ้ห่มถ้าทุกคนไปเห็นสภาพหลังจากน้ำท่วม 1 สัปดาห์แรก ดูเขตเทศบาลตำบลแจ้ห่มเหมือนสภาพ 30 ปีที่แล้วถนนหนทาง บ้านเรือนสถานที่สำคัญต่างๆ มีแต่ซากของต้นไม้ที่หักโค่น ขยะ โคลน มีฝุ่นละอองคละคลุ้ง ดูแล้วไม่เห็นความเจริญเลย และไม่ใช่ความเปลี่ยนแปลงจะเกิดที่ลำปางเท่านั้นโลกทั้งโลกก็ได้เปลี่ยนไปแล้วเช่นกัน เพราะเกิดเหตุการณ์ต่างๆมากมาย เช่น พายุ แผ่นดินไหว ภัยแล้ง ทุกๆเหตุการณ์เกิดขึ้นบ่อยครั้งและรุนแรงมากยิ่งขึ้น
      ฝนที่ตกตามที่เกิดพายุดอมเรย ดูเหมือนว่าฝนจะตกไม่มากแต่ด้วยป่าและผิวดินไม่เหลือความสมบูรณ์ ทำให้ไม่สามารถดูดซับน้ำได้เหมือนอย่างในอดีต สิ่งที่ทำได้ในวันนี้ก็คือ การมุ่งหน้าแก้ไขและหาทางป้องกันปัญหาในอนาคต ประชาชนคนลำปางหรือทุกๆคนที่อยู่บนโลกใบนี้ต้องหันไปให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมที่มีชีวิต เพราะต้นไม้และชีวิตอื่นที่อยู่ในดินป็นสิ่งที่สำคัญและเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญของความสมดุลในธรรมชาติ จากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ทำให้เราได้เรียนรู้ว่าชีวิตย่อมต้องการสิ่งที่มีชีวิต มนุษย์เราจะอยู่ได้อย่างไรถ้าไม่มีต้นไม้ ป่าไม้และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ
สภาพบ้านเรือนของประชาชนบริเวณริมน้ำวัง